การระบายอากาศที่ใช้งานทั่วไป / การหมุนเวียนอากาศ (General Ventilation / Air Changes) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการคำนวนระบายอากาศในพื้นที่ โรงงาน โกดัง คลังสินค้า ในการลดความร้อนสะสม ลดกลิ่นอับชื้น รวมทั้งการถ่ายเทอากาศด้วยวิธีการคำนวนอัตราการหมุนเวียนอากาศต่อชั่วโมง (Air Changes per Hour : ACH)
การระบายอากาศที่ใช้งานทั่วไป / การหมุนเวียนอากาศ (General Ventilation / Air Changes)
วิธีการคำนวณ
- คำนวณปริมาตรของพื้นที่ (Volume)
- ปริมาตร (ลูกบาศก์เมตร, m3) = กว้าง x ยาว x สูง (หน่วยเป็นเมตร) หรือ
- ปริมาตร (ลูกบาศก์ฟุต, ft3) = กว้าง x ยาว x สูง (หน่วยเป็นฟุต)
- กำหนดอัตราการหมุนเวียนอากาศ (ACH) ที่ต้องการ
- ค่า ACH จะแตกต่างกันตามประเภทของพื้นที่ โดยหากเป็นพื้นที่ที่มี ความร้อน กลิ่น มลพิษสูง ค่า ACH ก็จะสูงตาม เช่น
- โกดังเก็บของ : ค่า ACH = 2-6
- โรงงาน : ค่า ACH = 6-15
- โรงหล่อ ห้องครัวขนาดใหญ่ : ค่า ACH = 15-30
- ห้องพ่นสี พื้นที่ที่มีสารเคมี : ค่า ACH = มากกว่า 30 (ตามมาตรฐานกำหนด)
- ค่า ACH จะแตกต่างกันตามประเภทของพื้นที่ โดยหากเป็นพื้นที่ที่มี ความร้อน กลิ่น มลพิษสูง ค่า ACH ก็จะสูงตาม เช่น
- คำนวณปริมาณลมที่ต้องการ
- ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/hr) : (m3/hr) = (m3) x ACH
- ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (Cubic Feet per Minute: CFM) : (CFM) = [(ft3) x ACH / 60 นาที] ตัวอย่างเช่น
- โกดังขนาด 20x50x6 (เมตร) ต้องการ ACH = 4 ครั้งต่อชั่วโมง
- ปริมาตร = 20x50x6 = 6,000 m3
- ปริมาณลมที่ต้องการ = 6,000 m3 x 4 ACH = 24,000 m3/hr
- การระบายความร้อนเฉพาะจุด (Spot Cooling / Heat Removal)
กรณีที่ต้องการการระบายความร้อนที่เกิดจากเครื่องจักร เช่นในอุตสาหกรรมการผลิต การคำนวณจะมีความซับซ้อนมากกว่า โดยจำเป็นต้องทราบถึงปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นเป็น BTU/hr หรือ kW จากนั้นจึงคำนวนปริมาณลมที่ต้องใช้ในการนำความร้อนออกไปโดยรักษาระดับอุณหภูมิที่ต้องการ
วิธีการคำนวณ (เบื้องต้น)
- ปริมาณลม (CFM) ค่าเฉลี่ย (BTU/hr) / (1.08 x ΔT (°F))
- ปริมาณลม (m3/hr) ค่าเฉลี่ย (kW) / (0.00034 x ΔT (°F))
หมายเหตุ ΔT = ผลต่างของอุณหภูมิอากาศที่เข้าและออกจากพื้นที่
ดังนั้นเพื่อให้ค่าที่ได้มีความแม่นยำ การคำนวณในลักษณะนี้จึงควรต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค หรือวิศวกรเป็นผู้คำนวณ
การดูดระบายมลพิษเฉพาะพื้นที่ (Local Exhaust Ventilation – LEV)
ในการดูดควัน ไอระเหย สำหรับพื้นที่ที่มีฝุ่นควันโดยตรง เช่น งานเชื่อม งานบัดกรี พื้นที่ทำงานช่าง หรือ พื้นที่ทำงานที่มีสารเคมี การคำนวณใช้ปัจจัยดังนี้
- ความเร็วลมหน้างาน (Capture Velocity) หรือความเร็วที่ใช้ในการจัดและ ดูดมลพิษเข้าสู่ท่อ อันมีค่ามาตรฐานกำหนดตามประเภทของมลพิษและความเร็วในการฟุ้งกระจาย
- พื้นที่หน้าตัดของช่องดูด หรือระยะห่างจากตต้นกำเนิดฝุ่น ควัน
- ปริมาณลม (CFM) = (ft/min หรือ m/s) x (ft2 หรือ m2)
- การออกแบบ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกกำหนดไว้
นอกจากนี้เพื่อความเสถียรภาพของการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมในแต่ละงานอย่างเหมาะสม ยังต้องรู้
- ค่าความดันสถิต (Static Pressure (S.P.) หรือแรงต้านทานที่พัดลมต้องใช้ให้สามารถดันอากาศผ่านท่อ ข้องอ ฟิลเตอร์ หรือหน้ากากกันแมลง ฯลฯ
- พื้นที่ที่ใช้งาน ในการเลือกใช้พัดลมและมอเตอร์ที่เหมาะสม
- ระดับเสียงในพื้นที่ (ข้อกำหนดเรื่องเสียงรบกวน)
- ประเภทพัดลมอุตสาหกรรมที่เหมาะสม เช่น พัดลมแกน พัดลมแรงเหวี่ยง พัดลมอุตสาหกรรมต่างๆ
โปรวินเทรดดิ้ง ผู้จำหน่ายพัดลมให้คำแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบระบายอากาศ ดูแลตั้งแต่การเลือกพัดลมคำนวณอย่างเหมาะสมกับพื้นที่และตอบโจทย์การใช้งาน การติดตั้งและบริการหลังการขาย